หลังจากที่ถวายตัวเป็นสาวกผลไม้มาตั้งแต่ต้นปี 2013 ด้วยการเป็นเจ้าของ 13″ Retina MacBook Pro มา ณ ตอนนี้ก็เป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งก็ถือว่าธรรมดาสำหรับอุปกรณ์ไอทีที่จะเริ่มมีชิ้นส่วนที่งอแง เช่นเดียวกันกับเจ้าลูกชายของผม อยู่ดีๆ ก็ดับไปเองตอนแบตเตอรี่ลดเหลือ 40-50 เปอร์เซ็นต์ ทั้งที่เช็ค Cycle ดูยังไม่ถึง 500 เลยด้วยซ้ำ!! โชคดีที่ผมทำประกันไว้(ประโยคคุ้นๆ) เลยรีบเคลียร์งานในมือให้เสร็จสิ้น ละพาไปส่งโรงหมอ Mac Center ในทันใด
เมื่อไปถึงก็แจ้งอาการให้พนักงานทราบ จากนั้นพี่เค้าก็จะเอาเครื่องเราไปเสียบเข้ากับวง Network ของทางร้าน เพื่่อที่จะเปิดใช้งานฟีเจอร์ EFI Check ที่จะตรวจสอบการทำงานของฮาร์ดแวร์ต่างๆ ในเครื่อง ผลปรากฏว่าที่แบตเตอรี่ขึ้นเครื่องหมายกากบาทสีแดง(ใช่หรือเปล่าไม่แน่ใจ) ชัดเจนว่ามีอาการผิดปกติ ตัวผมเองก็อุ่นใจในระดับนึงว่าซอฟต์แวร์ฟ้อง+อยู่ในประกันแบบนี้ ได้เคลมสบายแน่กู ทว่าผลที่ออกมามันไม่ง่ายขนาดนั้น
ทางพี่คนที่รับเครื่องได้แจ้งว่าตัวแบตเตอรี่ไม่อยู่ในประกัน Apple Care… แต่เคสนี้ถือว่าเป็นเคสพิเศษ ต้องส่งคำขอเคลมไปให้ทางแอปเปิลสิงคโปร์พิจารณา ถ้าได้เคลมก็โชคดีไป ถ้าไม่อนุมัติก็อาจจะต้องเสียเงินเอง นาทีนั้นคิดไรไม่ออกก็ต้องได้แต่บอกว่าให้ลองติดต่อไปดู
คืนนั้นหลังจากกลับมาที่ห้องก็หาข้อมูลเลยครับ ว่าชิ้นส่วนแบตเตอรี่จริงๆ แล้วมีราคาที่ประมาณเท่าไร พอจะเปลี่ยนเองได้ไหม ปรากฏว่าไปเจอใน iFixit เว็บสำหรับคนชอบแงะชิ้นส่วน ราคาออกมารวมค่าส่งก็คงประมาณเกือบๆ $500………500 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ! ตีเป็นเงินไทยกลมๆ ก็สองหมื่น! กูได้เครื่องวินโดว์ใหม่เลยนะสตีฟฟฟฟฟฟ
[su_spacer]
หลังจากหายตกใจก็มาไตร่ตรองดู ว่าพาร์ทดังกล่าวมันควบรวมทั้งแผงด้านบน ไล่ไปตั้งแต่คีย์บอร์ด, แทร็คแพด, แบตเตอรี่ไปยังกรอบอะลูมิเนียมด้านนอก เรียกว่าไม่มีขายแบตเตอรี่แยก อยากจะเปลี่ยนต้องยกแผง นาทีนั้นผมเลยปลงชีวิต ว่าถ้าถึงแม้ตัวเรานั้นมิอาจเคลมแบตเตอรี่แล็ปท็อปไฮโซของเราได้ ก็คงจะเอามันกลับมาเสียบไฟใช้เหมือนเดิม ก็คงจะไม่เดือดร้อนเท่าไรนัก
เวลาผ่านเลยมาประมาณ 3 วันทำการ ช่างจากทาง Mac Center ก็ได้ติดต่อมาหาผมเพื่อสอบถามอาการทางเทคนิคเพิ่มเติม จากการคาดเดาประโยคที่คุยกัน ค่อนข้างจะมีความหวังว่าจะเคลมได้ ซึ่งผลก็คือ…เคลมได้จริงๆ ครับ!!
หนึ่งสัปดาห์หลังจากช่างได้ติดต่อมา ผมก็เข้าไปรับเครื่องได้เลย สภาพที่ได้คือหล่อขึ้นกว่าเดิมมวาก เพราะเล่นเปลี่ยนอะไหล่ยกแผง แบตเตอรี่ก็ทำงานเป็นปกติแล้ว ปุ่มคีย์บอร์ดที่มีคราบของเหลวลึกลับก็หายไป เป็นคีย์บอร์ดใหม่จากโรงงานแทน การพิมพ์สัมผัสเหมือนตอนซื้อเครื่องมาใหม่จากร้าน โอ้ววว กู๊ดจ็อบบบ คุ้มค่า Apple Care ไปแบบสุดๆ แฮปปี้ลี่มากๆ
[su_spacer]
[su_spacer]
ทว่าด้วยความอยากรู้เลยไปสืบมาจากวงในของคนทำงานในศูนย์ฯ ได้ความว่าแอปเปิลไม่ได้ใจร้ายอย่างที่ได้ฟังจากพนักงานรับเครื่องหรอกนะ ถ้าอาการมันเห็นโต้งๆ ว่าเสียจริง “ซึ่งอาการเสียดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการกระทำของผู้ใช้” ทางแอปเปิลก็ยินดีที่จะให้เคลมอยู่แล้ว ได้ฟังดังนี้คนที่กำลังลังเลว่าจะต่อประกันแม็คของท่าน ผมแนะนำว่าให้ต่อไปเถอะครับ ไม่ต้องรีบต่อตอนซื้อก็ได้ เอามันมาใช้งานเก็บเงินสักปีนึงละค่อยต่อก็ยังไม่สาย เพราะผมถือว่าซื้อความสบายใจจะได้ไม่ต้องมานั่งกลุ้มตอนเห็นราคาค่าอะไหล่ ซึ่งแพงทุกชิ้นแน่นอนสำหรับอีแบรนด์ผลไม้ไฮโซแบรนด์นี้