รีวิว The Yana Villas ห้อง Majcha (Private Pool Suite)

The Yana Villas รีสอร์ทน้องใหม่ระดับ 5 ดาว ที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นเขาตะเกียบ บริเวณก่อนถึงทางขึ้นเขาเล็กน้อย เจ้าของเดียวกันกับ The Palayana ที่ชะอำ บริหารงานโดย Satnam Hospitality ซึ่งถ้าอิงตามข้อมูลของ Bloomberg จะเป็นบริษัทจากทางฝั่งอเมริกาที่มีธุรกิจประเภทเดียวกันนี้อยู่ตามเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั่วโลก

ตัวรีสอร์ทประกอบไปด้วยห้องพัก 5 แบบ ตั้งชื่อด้วยคีย์เวิร์ดไทยลงท้ายด้วยสระอา ซึ่งพอจะสรุปคร่าว ๆ ได้ตามนี้ครับ

  1. Megha (เมฆา) – Deluxe Room
    ห้องระดับเริ่มต้นในห้องมีอ่างอาบน้ำขนาด 1 คนแช่ อยู่บริเวณด้านบนล็อบบี้
  2. Paksa (ปักษา) – Deluxe Jacuzzi Suite
    ห้องแนวเดียวกับเมฆา แต่มีอ่างจากุซซี่ตั้งอยู่ที่ระเบียง มีดาดฟ้าให้ด้วย
  3. Majcha (มัจฉา) – Private Pool Suites
    ห้อง Pool Villa ที่มีสระน้ำ พร้อมอ่างขนาดใหญ่อยู่ในห้อง เป็นห้องที่เราจะมารีวิวในครั้งนี้
  4. Samuthra (สมุทรา) – Seaview One Bedroom Pool Villa
    มีสระแบบเดียวกับมัจฉา แต่ไม่มีอ่างน้ำใหญ่ ทดแทนด้วยที่นั่งชมทะเลชั้นสองแทน
  5. Phupa (ภูผา) – Seaview Two Bedroom Pool Villa
    ห้องใหญ่ไซส์ครอบครัวขนาดสองห้องนอน มีสระขนาดใหญ่ที่สุด และที่นั่งชมวิวทะเลเช่นกัน

เช็คอิน

ผมมาถึงเวลาประมาณเที่ยงแก่ ๆ ซึ่งก็เข้าใจว่ายังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่ด้วยความที่ไม่รู้จะไปที่ไหน จึงได้ขับรถขอเข้าไปจอดในรีสอร์ทเพื่อข้ามถนนมาหาข้าวกลางวันทานก่อน โดยบริเวณตรงข้ามรีสอร์ทเป็นที่ตั้งของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ เจ้กันยา อันเป็นที่ขึ้นชื่อมาก แต่ทางเราไม่ทราบมาก่อน เลยเดินเลี่ยงคนเยอะไปกินร้านอาหารตามสั่งคุณเรณูแทน

บริเวณล็อบบี้ มีที่นั่งรอสองจุด ไม่ติดแอร์ ส่วนทางซ้ายมือเป็นทางลงไปห้องน้ำกับห้องฟิตเนส
เก้าอี้สำหรับนั่งรอซึ่งเอาจริง ๆ ไม่ได้สบายแต่อย่างใด เพราะนั่งพิงไปข้างหลังไม่ได้
Welcome Drink เป็นน้ำกระเจี๊ยบพร้อมผ้าเย็นไว้เช็ดเหงื่อหลังจากชำระค่าบริการ

เพิงเจ๊เรณูขายทั้งอาหารตามสั่งและอาหารอีสาน ด้านในตกแต่งสะอาดและมีอาหารให้เลือกหลากหลาย ที่สำคัญคือรสชาติดี ใครมากินก๋วยเตี๋ยวแล้วตกใจปริมาณคนก็ให้เดินเลยมากินที่นี่ได้ ไม่ขี้เหร่

จัดร้านง่าย ๆ โต๊ะไม่รก น้ำดื่มบริการตัวเอง
ปลาหมึกผัดผงกะหรี่ จานนี้น่าจะประมาณ 50 บาท

หลังกินข้าวห้องยังไม่พร้อมดี เลยต้องเดินออกไปนั่งบริเวณห้องอาหารก่อน ทำให้นอกจากน้ำกระเจี๊ยบเย็น ๆ ที่ได้เป็น Welcome Drink แล้ว ทางห้องอาหารก็เสิร์ฟน้ำส้มเบิ้ลให้อีก เมื่อถึงเวลาทางพนักงานก็เดินมาตามเพื่อขนสัมภาระเข้าห้องที่เราจองไว้ ได้ห้อง 206 ติดล็อบบี้กันเลยทีเดียว

ศาลาที่มานั่งรอบริเวณห้องอาหารติดทะเล
ระหว่างเดินกลับห้องแอบเห็นเจ้าตัวนี้ Unifi AC Mesh Pro คอยดักอยู่เป็นระยะ เป็นเครื่องการันตีได้เบา ๆ ว่าที่นี่ก็จริงจังกับเรื่องอินเทอร์เน็ตนะ

เดินสำรวจห้อง

สำหรับ 206 นี้เลย์เอ้าต์จะสลับกับภาพบนเว็บไซต์ของทางรีสอร์ท คือทั้งเตียงและสระจะอยู่ติดผนังทางฝั่งซ้ายมือแทน

เปิดประตูเข้าห้องจะเจอสระน้ำที่มีความลึก 1.2 เมตร ขนาดความกว้างถ้าคาดคะเนด้วยตาน่าจะประมาณ 3 x 4 เมตร เรียกว่าเอาไว้แช่น้ำเล่นขำ ๆ คล้ายร้อนจะเหมาะที่สุด บริเวณหน้าประตูจะเป็นเก้าอี้นอนสองตัว พร้อมโต๊ะข้าง เผื่อไว้วางอาหารว่างระหว่างเล่นน้ำ

ตลอดสี่มุมของสระน้ำจะมีแท่นปูนสำหรับนั่งได้หมด เว้นแต่มุมที่อยู่ด้านล่างขวาในรูป จะมีลักษณะเป็นขั้นบันได
มองจากตัวห้องออกไปข้างนอก รั้วห้องจะเป็นโครงเหล็กตีซี่ขึ้นมาในแนวตั้ง แล้วบังด้วยฉากไม้ไผ่อีกที ทำให้ไม่ค่อยจะปกปิดสักเท่าไร แต่ก็ต้องตั้งใจมองพอสมควรถึงจะส่องเข้ามาเห็นในห้อง

ถัดจากด้านนอกจะพบกับโซนห้องนอนซึ่งกว้าง และมีพื้นที่เหลือระหว่างทีวีกับเตียงเยอะมาก นอกจากเตียงขนาดคิงไซส์แล้ว ข้าง ๆ กันยังมีเตียงนอนเล่นที่ตกแต่งเหมือนว่าแขวนอยู่กับเพดานอีกด้วย คาดว่าถ้าเอาหมอนออกหมดก็คงนอนได้อีกคน

เตียงใหญ่และเตียงแขวน(หลอก) บริเวณหัวเตียงจะมีสวิตช์เปิดปิดไฟระบบสัมผัส

เฟอร์นิเจอร์บริเวณหน้าทีวีจะเป็นที่อยู่ของตู้เย็น, เครื่องชงกาแฟ, กาน้ำร้อน(อยู่ในลิ้นชัก) และ Harman/Kardon Go+Play Wireless ที่เสียงดีเกินคาด!

สถานีความบันเทิงและคลังเสบียงภายในห้อง
มินิบาร์ในตู้เย็น ตรงนี้กินฟรีทุกอย่าง!
เงยหน้าจากตู้เย็นขึ้นมาเจอเครื่องทำกาแฟแบบแคปซูล และกระปุกคุกกี้ซึ่งก็ฟรี!
แคปซูลกาแฟจะมีให้ 2 แคปซูล ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในลิ้นชักร่วมกับบรรดาชาและกาแฟซองต่าง ๆ

เห็นทีวีแขวนผนังแบบนี้อาจจะรู้สึกเสียบสายลำบาก กรณีที่พกแล็ปท็อปมาเผื่อดู Netflix ตรงนี้ทางโรงแรมได้เตรียมช่องต่อภายนอกไว้เรียบร้อย มีทั้ง HDMI, AUX 3.5 มม. และ USB และถ้าใครลืมเอาสายอะไรมา ทางล็อบบี้มีบริการให้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเหมือนช่อง HDMI ในห้องนี้จะใช้งานไม่ได้ โชคดีที่ทีวี LG ตัวนี้มีพอร์ตข้าง ทำให้พอจะกล้อมแกล้มลากสายมาเสียบได้ ส่วนเสียงก็ต่อบลูทูธไปออกที่ลำโพง Harman/Kardon แทน

ลองต่อ Wi-Fi เล่นสักหน่อย สัญญาณอินเทอร์เน็ตดีงามและเสถียรสุด ๆ
หน้าตาช่องเสียบสายสัญญาณต่าง ๆ เพื่อไปออกยังทีวี
มองย้อนกลับมาที่โซนที่นอนอีกที

เดินเลยเตียงไปอีกนิดก็จะเจอกับห้องน้ำ และอ่างอาบน้ำอยู่กลางห้อง ซึ่งแม้ตัวอ่างจะไม่มีระบบน้ำจากุซซี่แบบห้องปักษา แต่ขนาดของมันก็ใหญ่โตโอ่อ่านอนสบาย จากตรงนี้ถ้าปรับมุมดี ๆ ก็นอนแช่น้ำดูทีวีได้เลย

บริเวณซ้ายมือจะเป็นโต๊ะแต่งหน้าพร้อมโคมไฟ เลยเข้าไปก็จะเป็นห้องอาบน้ำแบบฝักบัวพร้อมเรนชาวเวอร์ โดยรีสอร์ทจะเตรียมสบู่เหลวและยาสระผมจาก ELLE Spa ไว้ให้

ตรงกลางเป็นอ่างล้างหน้าคู่พร้อมกระจกของใครของมัน พร้อมกับอุปกรณ์ยังชีพพื้นฐานและผ้าเช็ดหน้า

เลย์เอ้าต์อ่างล้างหน้าคู่ยอดนิยม ไม่ต้องแย่งกันใช้งาน
ใครที่ลืมเอาแปรงสีฟันมาที่นี่ก็มีให้ เรียกว่ามาแต่ตัวและเสื้อผ้าวันถัดไปก็นอนได้ทันที

ขวามือเป็นห้องส้วมพร้อมสายชำระและตู้เสื้อผ้าที่ด้านในจะมีตู้เซฟแบบกดรหัสให้ ซึ่งผ้าเช็ดตัวและเสื้อคลุมอาบน้ำจะแขวนอยู่ในนี้ พร้อมไม้แขวนเสื้อเปล่า ๆ อีก 2 คู่

ห้องส้วมอยู่ถัดจากตู้เสื้อผ้า มีสายชำระมาให้

ผมว่าห้องมัจฉา ของ The Yana Villas น่าจะเป็นห้อง Pool Villa อีกหนึ่งตัวเลือกในหัวหินที่ให้ความคุ้มค่าและสะดวกสบายไม่แพ้คู่แข่งอื่น เพราะมีทั้งสระน้ำและอ่างอาบน้ำขนาดใหญ่อยู่ในตัว พื้นที่ใช้สอยภายในห้องก็กว้างขวาง ที่สำคัญคือรีสอร์ทเพิ่งจะเปิดให้บริการ (ถ้าอิงตามวันจดทะเบียนเว็บไซต์) ทำให้ทุกอย่างยังคงอยู่ในสภาพใหม่เอี่ยม พร้อมตอบสนองการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามแม้ห้องพักจะได้ใจผมไปเต็ม ๆ แต่จุดอ่อนของรีสอร์ทนี้จะอยู่ที่ไลน์อาหารเช้าซึ่งถ้าว่ากันตามตรงของคาวไม่ค่อยหลากหลายเท่าไร และรสชาติก็ธรรมดา ถ้าใครจริงจังเรื่องการกินแนะนำให้เดินออกไปทานกลางวันที่ร้านเยื้อง ๆ กับรีสอร์ทจะดีกว่า เพราะไม่ว่าจะก๋วยเตี๋ยวเจ้กันยา หรือตามสั่งคุณเรณู ก็น่าจะให้รสชาติที่ถูกปากคนไทยกว่า

อีกหนึ่งอย่างก็คือความเป็นส่วนตัวขณะเล่นน้ำหน้าห้องที่อาจจะไม่ 100% เพราะว่าทางรีสอร์ทเลือกใช้การปลูกต้นไม้เป็นรั้ว และปิดด้วยฉากไม้ไผ่อีกหนึ่งชั้น ทำให้คนด้านนอกพอจะมองทะลุเข้ามาในบริเวณห้องได้อยู่

มองลอดฉากไม้ไผ่ดี ๆ ก็แอบเห็นทะลุไปถึงอีกด้านได้เหมือนกัน

เทียบกับ Cape Nidhra – Sky Pool Suite

ห้องมัจฉาที่ The Yana Villas จะมีพื้นที่ใช้สอยเหลือเยอะกว่า โซนห้องน้ำก็ใหญ่กว่า แต่ก็ใช่ว่าที่ Cape Nidhra จะแคบนะครับ เพราะทางนั้นได้เปรียบเรื่องความสูงเพดานที่โปร่งโล่ง ความเป็นส่วนตัวที่มากกว่าถ้าเกิดได้ห้องทางฝั่งที่ดินเปล่า เพราะไม่ค่อยมีคนผ่านไปผ่านมา รวม ๆ แล้วเรื่องห้องพักในรูปแบบใกล้เคียงกัน เรียกว่าเลือกไม่ถูกครับ แล้วแต่คนจะชอบ

สำหรับบรรยากาศภายนอก ผมชอบที่ Cape Nidhra มากกว่าแน่นอน เพราะว่ารีสอร์ทดูมีความเงียบ สงบ และเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในด้านการตกแต่ง พื้นที่ส่วนกลางมีปริมาณมากกว่ากันอย่างเห็นได้ชัด (สามารถกดสไลด์ด้านล่างเพื่อดูเทียบกันได้)

สรุปถ้าวัดกันรวม ๆ Cape Nidhra เฉือนชนะไปด้วยทำเลและบรรยากาศภายนอก ส่วนเรื่องห้องพักน่าจะแล้วแต่คนชอบ เพราะต่างที่ต่างก็มีข้อดีที่แตกต่างกันออกไป

สรุป

  • ถ้าต้องการพักแบบ Pool Villa แนะนำห้องมัจฉา ดูจะคุ้มสุด เพราะผมคิดว่าดาดฟ้าของห้องสมุทราคนเข้าพักในเมืองไทยน่าจะใช้งานไม่บ่อยมาก ถ้าเทียบกับอ่างน้ำขนาดยักษ์และพื้นที่กว้างขวางของห้องมัจฉา
  • อินเทอร์เน็ตครอบคลุมและเสถียรดี เพราะมีตัวกระจายสัญญาณอยู่เป็นระยะ ๆ
  • ข้าวของในห้องพักใหม่หมดจดเพราะรีสอร์ทเพิ่งเปิดไม่นาน มินิบาร์กินฟรี แต่ถ้าหมดแล้วเติมวันต่อวัน นอน 2 คืน ก็ได้ 2 ชุด
  • บรรยากาศทางเดินในรีสอร์ทค่อนข้างคับแคบ เพราะมีพื้นที่จำกัด
  • อาหารเช้าไม่ผ่านเท่าไร แนะนำให้เดินข้ามไปกินอาหารข้างนอกจะถูกปากกว่า

และนี่ก็คือทั้งหมดของประสบการณ์ที่ไปพักห้องมัจฉา หรือ Private Pool Suites ของที่รีสอร์ท The Yana Villas หัวหิน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีคนรู้จักไม่มากเพราะเพิ่งเปิดให้บริการมาไม่นาน และยังไม่ได้ทำการตลาดออนไลน์จริงจัง (ขนาดเพจเฟซบุ๊กยังไม่มีเครื่องหมาย Verified) ใครสนใจก็ทดลองไปกันได้ครับ ใช้โปร Early Gull จองกับโรงแรมน่าจะได้ราคาดีที่สุดถ้าไม่มีแต้มจากเว็บจองโรงแรมเหลือไว้ที่ไหน แล้วพบกันใหม่กับรีวิวถัดไป

Comments

comments